การให้บริการผู้เป็นเบาหวานอย่างสอดคล้องกับวิถีชีวิตท้องถิ่น
โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จังหวัดเลย
โดย พญ.ทิพพาวดี สืบนุการณ์
ข้อมูลทั่วไป
อำเภอด่านซ้ายเป็นเมืองโบราณตั้งขึ้นในสมัยอยุธยามีประวัติศาสตร์และประเพณีที่เป็นอัตลักษณ์ เช่น งานระเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน งานนมัสการพระธาตุศรีสองรักและประเพณีอื่นๆที่ยังคงเอกลักษณ์ของล้านช้าง มีพื้นที่ 1,700 ตารางกิโลเมตร เป็นเมืองในหุบเขาที่สลับซับซ้อนของเทือกเขาเพชรบูรณ์ มี 97หมู่บ้าน ประชากรประมาณ 50,000 คน คนด่านซ้ายกว่าครึ่งอำเภอต้องใช้เวลาเดินทางมาโรงพยาบาลมากกว่า 1 ชั่วโมงและไม่มีรถประจำทาง เวลามาโรงพยาบาลส่วนมากจะติดรถผู้นำชุมชนเวลาเข้ามาประชุมที่อำเภอหรือต้องเหมารถถ้าฉุกเฉิน อยู่ห่างจากตัวจังหวัด 82 กิโลเมตร
โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้ายเป็นโรงพยาบาลขนาด 60 เตียงมีผู้รับบริการประมาณ350 คนต่อวันมีแพทย์ 5 คน (อายุรแพทย์ 1คน สูติ–นรีแพทย์ 1คน)พยาบาล 45 คน เภสัชกร 5 คน นักกายภาพบำบัด 2 คน นักกิจกรรมบำบัด 1คน นักเทคนิคการแพทย์ 2คน จพง.วิทยาศาสตร์การแพทย์1คน รากของความคิดในการพัฒนาโรงพยาบาล พัฒนาศักยภาพโดยไม่ยอมแพ้ต่อข้อจำกัด พยายามคิดนอกกรอบ ส่งเสริมการเรียนรู้วิถีชุมชนเพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับชุมชน จึงมีกิจกรรมที่หลากหลายและกลายเป็นทุนทางสังคมของโรงพยาบาล เช่น การส่งเสริมให้ลูกน้อยรักการอ่านโดยอาศัยครอบครัวเป็นพื้นฐาน(Book start)กิจกรรมนักสืบสายน้ำเพื่อการอนุรักษ์แม่น้ำหมัน ร่วมจัดทำพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นผีตาโขนเพื่อการเรียนรู้และและเชื่อมโยงประเพณีทั้ง 12 เดือนซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิต วิทยุชุมชนช่องทางของการสื่อสารและพัฒนากองทุนดูแลสุขภาพและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุกองทุนดูแลผู้ป่วยยากไร้เป็นต้น
การให้บริการดูแลผู้เป็นเบาหวานอย่างสอดคล้องกับวิถีชีวิตท้องถิ่่น
การคัดกรองเบาหวานในชุมชนออกปฏิบัติงานตั้งแต่ 6โมงเช้าเพื่อไม่ให้รบกวนวิถีชีวิตของประชาชน โดยเมื่อเจาะเลือดคัดกรองเสร็จจะได้ไปทำงานเกษตรกรรมต่อได้เลย การแจ้งผลการคัดกรองเบาหวานจะต้องไปแจ้งผลตอนเย็นหรือค่ำเมื่อประชาชนกลับจากการทำงานแล้ว การนัดหมายในกรณีที่ค่าน้ำตาลมากกว่า 126mg% ภายใน 2สัปดาห์ถ้าเป็นไปได้จะนัดเป็นวันพระเพราะประชาชนจะไม่ออกไปทำงานในวันพระ(ถือเป็นวันหยุดงานของชุมชน)
การให้ความรู้เรื่องสัดส่วนอาหาร เนื่องจากคนส่วนใหญ่ในชุมชนบริโภคข้าวเหนียวเป็นอาหารหลัก กินเนื้อสัตว์น้อย ส่วนใหญ่จะกินกันมากเฉพาะเวลามีงานบุญ งานเลี้ยง จึงกำหนดสัดส่วนคาร์โบไฮเดรตเป็น 60 % ของพลังงานที่คำนวณได้แล้วแปลงเป็นจำนวนปั้นข้าวเหนียวต่อมื้อ ( ตารางที่ 2) ส่งเสริมการใช้กระติบข้าวส่วนตัวเพื่อควบคุมปริมานข้าว การให้ความรู้เรื่องสัดส่วนอาหารในคลินิกจะกำหนดตามปฏิทินชีวิต เน้นอาหาร/ผลไม้ตามฤดูกาลที่มีในท้องถิ่น
การนัดผู้ป่วยคลินิกเบาหวานรวมกันเป็นหมู่บ้านหรือตำบล เพื่อสะดวกในการเดินทางเหมารถคันเดียว กันเพราะส่วนใหญ่ไม่มีรถส่วนตัวและไม่มีรถประจำทาง ผู้ป่วยเบาหวานที่อยู่ไกลและการคมนาคมลำบากถ้าจำเป็นต้องนัดเร็วกว่า 3เดือนอาจจะนัดพร้อมวันประชุมผู้นำชุมชนหรือวันพระเพื่อสะดวกในการเดินทาง เนื่องจากวันดังกล่าวมีรถออกมาจากหมู่บ้าน มีการนัดให้บริการในวันหยุดในรายที่ไม่สามารถมารับบริการตรงวันนัดของคลินิกได้ เช่น เด็กนักเรียน ลูกจ้างชั่วคราวที่ลางานไม่ได้
การให้บริการที่บ้านในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถมารับบริการที่โรงพยาบาลได้เช่นผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่สามารถนั่งรถมาได้เนื่องจากเมารถอย่างรุนแรง ผู้ป่วยตาบอด ผู้ป่วยเป็นเจ้ากวน(ผู้ทำพิธีเข้าทรงจะไม่สามารถเข้าในอาคารที่เป็นสองชั้นได้) พยาบาลจะให้บริการในการเจาะเลือดที่บ้านและนำผลการตรวจเลือดปรึกษาแพทย์ นำส่งยาให้กับผู้รับบริการที่บ้าน
มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และส่งเสริมการใช้สมุนไพรท้องถิ่นที่มีสรรพคุณลดน้ำตาล และไขมันในเลือดได้ มีระบบให้คำปรึกษาและติดตามผลข้างเคียงของการใช้สมุนไพร และการใช้มะระขี้นกซึ่งเป็นพืชประจำท้องถิ่นใช้เป็นยาหลักหรือเสริมกับยาเบาหวาน
การให้บริการที่สถานีอนามัยแม่ข่าย 4 แห่ง ด้วยมาตรฐานเดียวกับการให้บริการในโรงพยาบาล เพื่อการดูแลอย่างครบถ้วนและต่อเนื่องโดยผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาล
การพิมพ์เท้าด้วยสีผสมอาหารแทน Podoscope เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงรูปเท้าและให้คำแนะนำเกี่ยวกับความผิดปกติของเท้าและการเลือกถุงเท้าและรองเท้าที่เหมาะสม การพิมพ์เท้าด้วยสีผสมอาหารเป็นกลวิธีในการสอนการล้างเท้าให้สะอาดและเรียนรู้การดูแลเท้าด้วยตนเองอย่างแท้จริง จัดตั้งกองทุนรองเท้าเพื่อให้ผู้ป่วยได้ใช้รองเท้าที่ปลอดภัยและเหมาะกับชีวิตประจำวัติ
การทำค่ายเบาหวานที่หมู่บ้านโดยให้ญาติและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วย เป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ป่วยและผู้ดูแล และมีการติดตามผลทุกเดือนในชุมชน และบุคลากรสาธารณสุขมีโอกาสได้เรียนรู้วิถีชีวิตผู้เป็นเบาหวานอย่างครบถ้วน เพื่อนำมาพัฒนารูปแบบการส่งเสริมสุขภาพให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมของแต่ละบ้านต่อไป
ตารางที่ 1 การคำนวณพลังงานจากน้ำหนักตัวและระดับกิจกรรม
ภาวะโภชนาการ |
กิโลแคลอรี่/กก./วัน |
||
กิจกรรมน้อย ผู้สูงอายุไม่ทำงาน อยู่บ้านเฉย ๆ , ผู้ป่วย |
กิจกรรมปานกลาง แม่บ้าน ทำสวนครัว งานสำนักงาน ค้าขาย |
กิจกรรมมาก ออกกำลังกายหนักเกิน1ชม./วันทำไร่ ทำนา |
|
อ้วน* (BMI > 25) ปกติ (BMI 18 - 25) ผอม (BMI <18) |
20-25 30 35 |
30 35 40 |
35 40 45-50 |
* กรณีที่ BMI เกิน 25 ใช้น้ำหนักปัจจุบันแล้ว โดยให้ลดพลังงานลงวันละ 500 กิโลแคลอรี่ กรณี BMI เกิน 40ให้คำนวณด้วยน้ำหนักที่น้อยกว่าปัจจุบัน 10%
ตารางที่ 2 การนับคาร์บ
Kcal/วัน |
**CARB/วัน ที่แนะนำ |
เช้า |
กลางวัน |
เย็น |
800 |
7 |
3 |
2 |
2 |
1,000 |
9 |
3 |
3 |
3 |
1.200 |
11 |
4 |
4 |
3 |
1,400 |
13 |
5 |
4 |
4 |
1,600 |
15 |
5 |
5 |
5 |
1,800 |
17 |
6 |
6 |
5 |
2,000 |
19 |
7 |
6 |
6 |
2,200 |
21 |
7 |
7 |
7 |
2,300 |
22 |
8 |
7 |
7 |
2,400 |
23 |
8 |
8 |
6 |
2,500 |
24 |
8 |
8 |
8 |
* 1 คาร์บ=ข้าวเหนียวปั้นเท่าไข่ไก่=CHO