อุทยานภูหินร่องกล้า

อุทยานภูหินร่องกล้า

อุทยานภูหินร่องกล้า


เย็นของวันที่ 21 พฤษภาคม 2553 ศึกษาประวัติศาสตร์ไทย ภูหินร่องกล้า 5 ท่าน รถกระบะ  1 คัน โดยมีคุณพิทักษ์  หอมวุฒิวงศ์ เป็น พรข.  ถึงอุทยานภูหินร่องกล้า ก็เขาที่พักผ่อนตามอัธยาศัย เช้าขอวันรุ่งขึ้น เวลา 6.00 คณะของเราเริ่มตามศึกษาประวัติศาสตร์อันดับแรกที่อุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้าซึ่งหลายท่านอาจจะจำไม่ได้แล้วถึงเรื่องในปี พ.ศ. 2511-2515 เทือกเขาหินร่องกล้านี้เคยเป็นฐานที่มั่นใหญ่ของการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ คณะของเราได้ดู ลานหินแตก เป็น ลานหินมีรอยแตกเป็นแนวเป็นร่องเหมือนแผ่นดินแยก รอยแตกนี้บางรอยก็มีขนาดแคบขนาดพอคนก้าวข้ามได้ แต่บางรอยก็กว้างจนไม่สามารถจะกระโดดข้ามไปออกจากอุทยานแห่งชาติ ภูหินร่องกล้า คณะมุ่งสู่ ภูทับเบิก เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร เหตุผลที่เรียกภูทับเบิกก็เพราะอยู่ใกล้กับหมู่บ้านม้งทับเบิก ต.วังบาล ซึ่งห่างจากอ.หล่มเก่า 40 กม. และห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 97 กม. 

     ภูทับเบิก มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา ป่าไม้ สายหมอก ไอหนาวและอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกลและทะเลหมอกที่มีให้ดูตลอดปีทำให้คณะเราได้ภาพสวยๆๆจากภูทับเบิกที่ต่อไปคืออำเภอเขาค้อฐานอิทธิ (พิพิธภัณฑ์อาวุธ)เป็นจุดหนึ่งที่มองเห็นทิวทัศน์ เป็นฐานสำคัญฐานหนึ่งในการเข้ายึดพื้นที่ ปัจจุบันทางการได้จัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์อาวุธเปิดให้คนได้เข้าชมทุกวัน โดยการนำอาวุธปืนใหญ่ ซากรถถัง และอาวุธที่ใช้สู้รบในการรบที่บนเขาค้อมากมาย รวมทั้งการจัดห้องบรรยายสรุปแก่ผู้เข้าชมเป็นหมู่คณะด้วย คิดค่าชมคนละ10 บาท การเดินทางตามทางหลวงหมายเลข 2196 เลยกม. 28 ไปเล็กน้อย แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2323 ไปประมาณ 3 กม. รวมระยะทางประมาณ 31 กม.อนุสรณ์สถานผู้เสียสละอยู่บนยอดเขาสูงสุดของเขาค้อ อยู่เลยฐานอิทธิ ไปอีก 1 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนวีรกรรมของพลเรือน ทหาร ตำรวจ ทหาร ผู้พลีชีพในการสู้รบเพื่อปกป้องพื้นที่ในเขตรอยต่อ 3 จังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511-2525 โดยสร้างด้วยหินอ่อนเป็นรูปสามเหลี่ยมสูง 24 เมตร หมายถึง การปฎิบัติการร่วมกันระหว่างพลเรือน ตำรวจ ทหารในปีพ.ศ. 2524 ผนังภายในบันทึกประวัติอนุสรณ์สถานและรายชื่อวีรชนผู้เสียสละไว้ด้วย
        ในการตามรอยประวัติศาสตร์ครั้งนี้ต้องขอขอบคุณกรรมการ HRD ที่มีโครงการดีๆให้ ได้ศึกษาจากของจริงๆไม่ใช่ศึกษาจากตำราอย่างเดียว  

 

view