ทุ่งทานตะวันและทะเลตะวันออก ไปเมื่อไหร่ ไม่เคยเบื่อ (เพราะไม่ค่อยได้ไป)!!!

ทุ่งทานตะวันและทะเลตะวันออก ไปเมื่อไหร่ ไม่เคยเบื่อ (เพราะไม่ค่อยได้ไป)!!!

ทุ่งทานตะวันและทะเลตะวันออก ไปเมื่อไหร่ ไม่เคยเบื่อ (เพราะไม่ค่อยได้ไป)!!! 

ทริปนี้ของพวกเรา มีมากกว่า 3 หน่วยงานที่โรงพยาบาลกำหนดไว้ เรามีถึง 7 หน่วยงานที่เดินทางร่วมกัน ได้แก่ ER5 , LR2 , OR1 , ห้องบัตร2 , เปล2 , พขร.1 และ หอผู้ป่วยใน1 อีก 2 คน รวมผู้ติดตามและเจ้าของรถตู้มีจำนวนมากถึง 23 คน ส่งผลให้พวกเราเป็นกรุ๊ปที่ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว

พวกเราเริ่มออกเดินทางกันประมาณตี 1 ครึ่งของคืนวันศุกร์ที่ 3 ธ.ค. 53 (เช้าตรู่วันที่ 4) ด้วยรถตู้ 2 คัน อย่างที่เกริ่นไว้คือ 23 คน จะให้ร่ายชื่อทั้งหมดคงเหนื่อยและเปลืองหน้ากระดาษน่าดู การเดินทางครั้งนี้ เราได้ใช้บริการรถตู้ใหม่ป้ายแดงของพี่บอล Ambu5 เครื่องเสียงติดตั้งใหม่ ดังกระหึ่ม ไม่ต้องบอกเลยว่า พวกเราแทบไม่ต้องนอนกันเลย ใครที่ไม่เคยจับไมค์ร้องเพลงให้คนอื่นฟัง ได้โอกาสก็ตอนนี้แหล่ะ ถึงจะฟังได้บ้างไม่ได้บ้างก็ตาม พวกเราก็ต้องทนฟัง ฮ่า ฮ่า ฮ่า ร่วมหัวจมท้ายกันแล้วนิ แต่สุดท้ายสาวๆ ก็ทนความง่วงไม่ไหวหลับกันจนได้ เหลือแต่หนุ่มๆ ร้องเพลงเป็นเพื่อนพี่บอลขับรถต่อไป.....รถตู้อีกคันเป็นของพ่อพี่กระติกจากโคกงาม ให้บรรดาผู้ใหญ่ทั้งหลาย ได้แก่คุณแม่ระเนียดคุณแม่ของพี่เอกวัฒน์ ครอบครัวพี่อี๊ดห้องบัตร ครอบครัวพี่กระแตOR และพี่แอ้มเปลรูปหล่อกับแฟนสาวคนสวย ได้โดยสารกันอย่างเงียบๆ นอนเอาแรงไว้เล่นน้ำทะเล (พี่ๆ เค้าบอกไว้อย่างนั้นนะ) 

ที่หมายแรกของพวกเราคือ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เราถึงก่อน 6 โมงเช้านิดๆ ได้สูดอากาศสดชื่นให้เต็มปอด แต่ละคนก็เร่งรีบหยิบกล้องเพื่อไปถ่ายรูปกัน ไม่ลืมที่จะถ่ายภาพคู่กับลิงตัวใหญ่รวมทั้งดอกทานตะวันยักษ์อันเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดลพบุรี เราไม่ได้เสียเงินค่าถ่ายรูปเลยเพราะคนเก็บเงินค่าถ่ายรูปกับดอกทานตะวันยักษ์ยังไม่มาทำงานอันเนื่องมาจากพวกเรามาถึงที่นี่กันเช้ามาก หลายคนจึงพากันทำธุระส่วนตัว (ล้างหน้า แปรงฟัน เข้าห้องน้ำ) ให้เรียบร้อย

 

หลังจากชื่นชมบรรยากาศบริเวณเขื่อนฯ กันสักพัก ท้องของแต่ละคนก็เริ่มร้องกันระงม กับข้าวบ้านเฮาที่ได้จัดเตรียมไว้ ได้แก่ เนื้อแดดเดียวทอด หมูแดดเดียวทอด แจ่วดำ ข้าวเหนียวนึ่ง ก็ได้ถูกนำมาเป็นอาหารมื้อแรกของพวกเรา แซบอีหลีแน่ว...เมื่อท้องอิ่ม ก็เริ่มเดินทางต่อเพื่อไปดูทุ่งทานตะวัน สองข้างทางหลังออกจากตัวเขื่อนไปจนถึงอำเภอพัฒนานิคม มีทุ่งทานตะวันให้ดูตลอดเส้นทาง บ้างก็เริ่มโรยแล้ว แต่สิ่งที่พวกเราอยากเห็นกันก็คือ ดอกทานตะวันสีแดง ซึ่งก็ได้ดูจริงๆ แต่ต้องเสียเงินคนละ 10 บาท และก็มีให้ดูไม่กี่ดอกแถมสีก็ยังไม่แดงจัดอย่างที่ควรจะเป็น  สอบถามจากผู้ดูแลสวนบอกว่าปลูกค่อนข้างยากมาก ทำให้มีราคาค่อนข้างแพงเมล็ด 2 กิโลกรัมมีราคาถึงแสนบาทเลยทีเดียว (ไม่รู้ว่าชัวร์หรือมั่วนิ่ม) แต่พวกเราก็เก็บภาพที่ทุ่งทานตะวันได้เยอะมาก โดยเฉพาะกล้องของพี่เอกวัฒน์

เมื่อชมทุ่งทานตะวันกันเสร็จแล้ว จุดนัดหมายต่อไปของพวกเราคือ ปั๊มน้ำมัน ปตท.หลัก กม.100 จ.สระบุรี แต่ระหว่างทางก็ยังมีทุ่งทานตะวันให้ชมอยู่เรื่อยๆ แต่สิ่งที่สะดุดตาของพวกเราก็คือเหล่าบรรดาขบวนรถถังและรถบรรทุกทหารจำนวนมาก เป็นระยะทางเกือบ 20 กม. มากจนทำให้พวกเราคิดว่าเกิดเหตุการณ์อะไรในบ้านเมืองของเราอีกหรือเปล่า???  ซึ่งก็ไม่มีใครให้คำตอบพวกเราได้ หวังแต่เพียงว่าจะไม่มีเหตุการณ์ร้ายๆ อีก.....ถึงจุดนัดหมายปั๊มน้ำมัน ปตท.หลัก กม.100 รถตู้ได้เติมน้ำมัน พวกเราก็เลยได้เติมพลัง (อาหารเที่ยง) กันอีกรอบ ก่อนที่จะเดินทางยาวต่อถึงบ้านเพวิลล์ จ.ระยอง รถตู้คันของพี่บอล ก็ยังคงคึกครื้นกันอย่างต่อเนื่อง เพลงเปิดซ้ำกันหลายรอบ เนื่องจากแผ่นคาราโอเกะยังมีไม่เยอะนัก (รถใหม่ก็อย่างนี่แหละนะ รับได้) ส่วนรถตู้ของพ่อพี่กระติก ยังคงเงียบต่อไป สงสัยจะเอาแรงไว้เล่นน้ำจริงๆ นะเนี่ย.....จนแล้วจนรอด พวกเราก็ถึงที่หมายกันอย่างปลอดภัยและง่ายมากในการหาที่พักที่พวกเราได้จองไว้ (แผนที่ค่อนข้างชัดเจน หาง่าย) เมื่อเก็บสัมภาระเข้าที่พักเรียบร้อยกันแล้ว พวกเราส่วนหนึ่งจึงออกไปจ่ายตลาด  หาซื้ออาหารทะเลสดมาทำเมนูปิ้งย่างที่พวกเราถนัด   นอกเหนือ

จากอาหารหลักที่พวกเราสั่งไว้ สำหรับ Party sea food มื้อเย็น ถูกใจหลายๆ คน โดยเฉพาะพี่อี๊ดห้องบัตรกับพี่แป๋วห้องคลอด บอกว่าลาภปากเชียวหล่ะ

ส่วนคนที่ไม่ได้ไปจ่ายตลาด ก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเตรียมเล่นน้ำทะเล วิ่งไปชายหาดซึ่งไม่ห่างจากที่พักมากนัก (ประมาณ 50 เมตร) หาดสวย สงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว มองออกไปทะเล เห็นเกาะกุฎี เกาะทะลุ พวกเราคุยกันว่าถ้าพอมีเวลาเราจะไปเกาะใดเกาะหนึ่งในวันพรุ่งนี้ (อาทิตย์ที่ 5 ธ.ค. 53) เล่นน้ำกันอยู่พักใหญ่ ทีมที่ไปจ่ายตลาดก็กลับถึงที่พักและเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมเล่นน้ำ พวกเราจึงชวนกันเล่นเรือกล้วย (Banana Boat) ได้เล่นกันแค่ 2 ชุด รวม 10 คน (เพราะหลายคนไม่กล้าเล่น อีกทั้งเริ่มค่ำแล้ว) แต่ก็พอที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่หาดหันมองพวกเรากันเป็นแถว เพราะเสียงกรี๊ดดังลั่นตั้งแต่เริ่มขึ้นเรือกล้วยจนกระทั่งเรือคว่ำตกน้ำ ส่วนหนุ่มๆ ก็หันไปเล่นฟุตบอลชายหาดกันต่ออีกยก

6 โมงเย็นกว่าๆ จึงพากันเลิกและรีบกลับไปเตรียมอาหารเย็นช่วยกัน สนุกไปอีกแบบ คนไม่เคยทำก็ได้ลองทำ คนที่เคยก็ได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ ทุกคนสามัคคีกันอย่างคาดไม่ถึง คงเพราะหิวกันแล้ว อาหารหลักที่ขาดไม่ได้ของพวกเราคือส้มตำ แซบอีหลีแน่ว Sea food ก็ Sea food เถอะ....อาหารพร้อม คนพร้อม เสียงเพลงพร้อม (ได้รับความอนุเคราะห์จากพี่บอลเอารถตู้มาเปิดท้ายให้พวกเราได้ร้องเพลงกันต่อ) ทุกคนต่างมีความสุขกับการกินเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่ลืมที่จะเปลี่ยนกันจับไมค์ร้องเพลง ว่ากันว่า มีนักร้องเสียงดีหลายคนเลยหล่ะ.....อาหารสดที่พวกเราเตรียมไว้ เริ่มทยอยนำมาช่วยกันปิ้งย่าง อย่างต่อเนื่อง จนแล้วจนรอด กินกันจนเที่ยงคืนก็ยังไม่หมด เหลืออีกบานตะไท โดยเฉพาะปลาหมึก หนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อน สาวๆ ต่างเริ่มทยอยเข้านอนกันคงไว้แต่หนุ่มๆ ที่ไม่รู้ว่าหาเรื่องอะไรมาคุยกันได้ไม่รู้จบ แต่ก็ไม่ดึกนักเพราะต่างคนต่างเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว

เช้าวันอาทิตย์ที่ 5 อาหารเช้าได้แก่ ข้ามต้มทะเล กาแฟ โอวัลติน และปลาท่องโก๋ ที่สั่งไว้มาส่งถึงที่พักประมาณ 7 โมงกว่า ๆ อาหารสดที่เหลือพวกเราจึงให้ร้านอาหารแถวหาดช่วยนำไปปรุงทำเป็นอาหารเพิ่มจากข้าวต้มให้กับพวกเรา รสชาติดีใช้ได้ และเช้านี้ยังไม่มีใครมีอาการอาหารเป็นพิษเลยสักคน โชคดีจริง ๆ แต่ถึงมี พวกเราค่อนข้างเตรียมพร้อมในเรื่องนี้มาดีพอสมควร ไม่น่ามีปัญหาอะไรถ้าไม่ลืมไซริง ฮ่า ฮ่า ฮ่า (เตรียมยาไว้ครบถ้วนแต่ไม่มีไซริงสำหรับยาฉีด โชคดีที่เปิดกระเป๋ายาที่ 7-11 หล่มเก่า เลยแวะไปขอห้องฉุกเฉิน รพร.หล่มเก่าได้มาจำนวนหนึ่งตั้งแต่วันเดินทางแล้ว)

หลังจากทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว ก็ไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายกับผู้ดูแลบ้านพักและร้านอาหาร เสร็จประมาณ 9 โมงกว่าๆ พวกเราจึงรีบออกเดินทางเพื่อไปหาซื้อของฝาก ทำให้สิ่งที่พวกเราวางแผนไว้คือไปเที่ยวเกาะเป็นอันต้องยกเลิกไป เนื่องจากเวลาที่จำกัด

ถึงที่ซื้อของฝากแถวๆ บ้านเพ แต่ละคนหิ้วกันจนหลังแอ่น ได้ของกลับไปฝากพ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อนฝูงทั้งหลายกันมากมาย  จึงเดินทางต่อมุ่งหน้าสู่ที่หมายต่อไปคือ ตลาดน้ำสี่ภาคแถวๆ พัทยาใต้ ใช้เวลาที่นี่ไม่นานนักเพราะนักท่องเที่ยวเยอะเหลือเกิน โดยเฉพาะชาวต่างชาติเยอะมากขอบอก สวยๆ หล่อๆ ทั้งนั้น  ออกจากตลาดน้ำสี่ภาคมุ่งหน้าสู่หาดบางแสนเพื่อทานอาหารกลางวัน และแวะตลาดจตุจักร จ.ชลบุรี ช๊อปปิ้งกันอีกพักใหญ่ จึงเดินทางกลับถึงตัวจังหวัดสระบุรีแวะทานอาหารเย็นและซื้อกะหรี่ปั๊บของฝากชื่อดัง ท้ายสุดออกเดินทางจากสระบุรีก็ไม่แวะพักที่ไหนอีกเลย นอกจากปั๊มน้ำมันให้ปลดทุกข์กัน กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบตี 3 นั่งรถจนเหนื่อย แต่ก็คุ้มค่าเพราะเราได้อะไรมากมาย ทั้งความสุข ความสนุกสนาน ความมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน โดยเฉพาะการมาจากหลายหน่วยงาน ที่มักไม่ค่อยได้พูดคุยกันในระหว่างทำงานที่โรงพยาบาลนัก และนี่คงเป็นเหตุผลหลักที่กำหนดไว้ว่าต้องรวมกันมากกว่า 3 หน่วยงาน เพื่อความสมานฉันท์ในองค์กร

ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหาร รพร.ด่านซ้าย ที่ให้โอกาสพวกเราได้ไปเที่ยว ได้ให้กำไรชีวิตให้กับตัวเองและครอบครัว ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ผู้ร่วมเดินทางทุกๆ คน ที่ทำให้การเดินทางครั้งนี้ เป็นการเดินทางที่แสนพิเศษ พี่เอกวัฒน์จาก ER ฝากบอกว่านานๆ จะได้พาแม่เที่ยวสักที หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการดีๆ อย่างนี้คงจะมีตลอดไป จะได้พาแม่เที่ยวอีก ขอบคุณจริงๆ ค่ะ

ม่วนหลายเด้ !!!

น้องนิว วอร์ด 1 ค่ะ

view