เรื่องเล่าชาว....

เรื่องเล่าชาว....

เรื่องเล่าชาว....

       วันนี้เป็นวันศุกร์ที่  17  ธันวาคม  2553  สมาชิกที่ร่วมเดินทางมีด้วยกัน  10  คน  และคนขับรถอีก  2  คน  (เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง)  ส่วนใหญ่วันเกินครึ่งขึ้นเวรเช้า  ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นกันมาก  ต่างนัดแนะกันในการเตรียมความพร้อมในการเดินทาง  ไม่ว่าจะเป็นอาหาร  อุปกรณ์การประกอบอาหาร

ประจำชาติ (ลาว)  ที่ทุกคนไม่ลืม  แบ่งความรับผิดชอบกันไป  เรานัดกัน  3  ทุ่ม  คุณลองคิดดูว่าจะไม่บอกว่าตื่นเต้นได้อย่างไร  พี่วิสุทธิ์มารอขึ้นรถตั้งแต่  1  ทุ่ม  หลังจากนั้นเวลา  3  ทุ่ม  20  นาที  สมาชิกทุกคนก็พร้อมที่จะออกเดินทางไปเที่ยวทะเลที่ชะอำสมาชิกร่วมเดินทางมี  พี่ลี่  พี่แอม  น้องแอน  พี่เอ๋และน้องออม พี่เล็ก  พี่แน่ง  พี่วิสุทธิ์  น้อง และหนู  ทุกคนพร้อมค่ะ  ล้อหมุนเวลา  3  ทุ่มครึ่ง  พี่วิสุทธิ์  พี่แน่ง  และหนู

รับหน้าที่ขับกล่มบรรเลงเพลงสยองไปเกือบตลอดทาง  ลืมบอกไปค่ะว่าวันที่เราเดินทางเป็นวันที่อากาศหนาวมาก (ด่านซ้ายหนาวมากค่ะ....ยืมเชษมาใช้ค่ะ)    พอรถเราถึงปั๊มน้ำมันหล่มเก่ารถจอดให้เราไปทำธุระส่วนตัว  พอเปิดประตูรถมาทุกคนเดินออกจากรถ  เอ๊ะ!  ทำไม่เขามองพวกเราจังเลย  เขาคงคิดว่าสาวเกาหลีมาเที่ยว  ก็เราทุกคนใส่เสื้อกันหนาว  หมวก  ผ้าพันคอกันทุกคนเลยค่ะ  วันนั้นที่หล่มไม่หนาวเหมือนบ้านเรา  พอขึ้นรถมาพวกเราตกลงกันไว้ว่า  ต่อไปก่อนลงรถต้องสำรวจภูมิอากาศก่อน  ไม่งั้นจะถูกมองว่าเป็นสาวเกาหลีก็ทำไงได้  (ด่านซ้ายหนาวมาก)  รถขับไปประมาณถึงเพชรบูรณ์ พี่วิสุทธิ์ก็ถามว่ามีอะไรกินไหม  หิวข้าว!  ทุกคนต่างถามว่าทำไมหิวเร็วจัง ก็ไม่หิวเร็วได้ไงค่ะตื่นเต้นจนลืมกินข้าวเย็น  เลยได้หมูทอดพี่แอมข้าวเหนียวแม่น้องแอนที่เตรียมมาให้ช่วยชีวิตพี่วิสุทธิ์ไว้ได้   หลังจากได้เติมพลังนักเที่ยวพันธุ์ข้าวเหนียวแล้วพี่วิสุทธิ์ก็บรรเลงเพลงต่อเกือบตลอดทางจนถึงเวลา  03.00 น.ทุกคนต่างหลับใหล (ยกเว้นคนขับนะค่ะ)  ที่ทำหน้าที่เป็นอย่างดี  เราถึงที่หมายตลาดน้ำดำเนินสะดวก จ.สมุทรสาคร  6  โมงเช้าพอดีอากาศดีมากได้บรรยากาศแม่ค้ากำลังพายเรือขายของประเภทผักและผลไม้น่ากินมาก และของที่ระลึกต่าง ๆ 2 ฝั่งคลอง  หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเราจึงชวนกันลงเรือพายชมตลาดน้ำยามเช้า  เรานั่งเรือพายชมตลาดไปกินก๋วยเตี๋ยวไปทุกคนต่างระมัดระวังเพราะว่ากลัวก๋วยเตี๋ยวจะหกเวลาเรือโอนเอนได้บรรยากาศดีทีเดียว  เราออกเรือไปได้ครึ่งทาง เอ๊ะ!  พี่วิสุทธิ์หายไปไหนพอดีพี่วิสุทธิ์เดินมาเราก็อยู่กลางน้ำแล้ว  เพราะพี่วิสุทธิ์มัวไปอาบน้ำแต่งตัวหล่ออยู่ (แต่งยังไงก็ได้แค่นั้นแหละ..555) แถมมาคุยโม้ว่าได้อาบน้ำ  5  บาทอีก เพราะค่าบริการอาบน้ำ 10  บาทเค้าคิดตังค์ 5 บาทได้กำไร  5  บาท 

       หลังจากเที่ยวตลาดน้ำแล้วเราก็ออกเดินทางต่อไปที่  อ.บางแพ จ.ราชบุรี  ชมอุทธยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม  ซึ่งเป็นรูปปั้นบุคคลสำคัญทั้งของไทยและต่างประเทศ  ไม่ว่าจะเป็น หม่อมหลวงปิ่น  มาลากุล 

ดร.สัญญา  ธรรมศักดิ์  ,สืบ  นาคะเสถียร  ,เหมา เจ๋อตุง และที่ประทับใจคือ ถ้ำชูชก ได้บรรยายเรื่องราวของชูชก  ตั้งแต่แรก  จะกระทั่งกินอาหารจนท้องแตกตาย  หลังจากนั้นพวกเราเดินทางไป อ.หัวหิน

จ.ประจวบคีรีขันธ์  ไปเยี่ยมเพื่อนพี่วิสุทธิ์  แวะรับประทานอาหารเที่ยงที่นั้น เป็นอาหารทะเล ปิ้ง ย่าง และยำรสเด็ด หอยแครงสด ๆ อร่อยมาก ๆ ลงรถตอนแรกไม่มีใครพูดจา แต่พออิ่มเริ่มมีเสียงคุยกัน คุยกันอย่างสนุกสนาน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวในอดีตเพราะอายุเราก็เริ่มเข้าวัยพูดคุยถึงความหลังกันแล้ว หลังจากล่ำลากันแล้วก็ออกเดินทางต่อเพื่อเข้าที่พัก เล่นน้ำทะเลเย็น ๆ ที่หาดชะอำ  จ.เพชรบุรี  ตอนเย็นก็ไปเดินชมสินค้าที่ถนนคนเดินที่หัวหิน  เพราะไม่ไกลกันมากนักจากที่พัก  หลังจากกินอาหารเย็นเราก็พักผ่อนกันอย่างมีความสุขเพราะร่างกายก็ล้ากันมาทั้งวันแล้ว  หลับแบบไม่ได้ฝันกันเลยทีเดียว

       หลังจากตื่นนอนเช้าวันที่  19  ธ.ค. พวกเราได้เช่ารถจักรยานสามัคคี 3 คัน ปั่นเที่ยวชมบรรยากาศทะเลตอนเช้าที่หัวหิน  ดูพระอาทิตย์ขึ้นได้บรรยากาศไปอีกอย่าง  (แต่หารู้ไม่ว่าเหนื่อยเหมือนกันนะเนี๊ย) มีคนเสนอว่าน่าจะซื้อไปไว้ที่โรงพยาบาลสักคัน  เอาไว้ให้ญาติยืมปั่นไปตลาดและให้นักศึกษาใช้ปั่นไปตลาดเพราะว่าจะได้เกิดความสามัคคีกันไปเป็นหมู่คณะ  พี่วิสุทธิ์เสนอว่าควรซื้อไปให้เวชใช้ปั่นไปเยี่ยมบ้านในเขตเวช  เช่น  บ้านเดิ่น  ตลาด  หรือบ้านเหนือน่าจะดีทีเดียว  หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางเพื่อแวะเที่ยวและกลับบ้าน ระหว่างทางแวะซื้อตุ๊กตาที่ราชบุรี  ซึ่งเป็นสินค้า OTOP ของที่นั้น  ตุ๊กตาเยอะมาก ราคาถูก ได้คนละหลายตัว (เกือบไม่มีที่นั่งกลับค่ะ)  แวะกินก๋วยเตี๋ยวที่นครปฐมแนะนำโดยบุญลักษณ์ค่ะ (เจ้าถิ่น)  ที่ร้านเต็กกอ สาขา  4  อร่อยมากค่ะแถมได้ราคามิตรภาพเพราะน้องเคยมาอยู่ที่นี้เจ้าของร้านเต็กกอได้รับน้องบุญลักษณ์  มาเป็นบุตรบุญธรรมค่ะสมัยยังเรียนพยาบาลเราก็เลยได้ทราบประวัติ  เต็กกอ

และบุญลักษณ์ไปพร้อม ๆ กัน  จากนั้นเดินทางมาที่จังหวัดสุพรรณบุรี ไปไหว้หลวงพ่อโต ก่อนไปดูมังกรยักษ์ ซึ่งเป็นมังกรใหญ่ขนาดเท่าตึก 4  ชั้น แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นในขณะที่พี่วิสุทธิ์กำลังคุยโม้ว่าวันนี้ท่านบรรหารไปประชุมพี่วิสุทธิ์ไม่สามารถพาพวกเราไปเข้าพบได้ บอลก็ตะโกนมาจากด้านหน้าคนขับว่า  โกหก  นั่นไง ทุกคนต่างตะลึงค่ะเราเจอท่านบรรหาร ศิลปะอาชา  นั่งรถกอล์ฟกำลังตรงมาทางแยกพอดี    ออกจากดูมังกรยักษ์เราไปเที่ยวตลาดสาชุกกันต่อ  แต่ละคนกำชับกันว่าเที่ยวอย่างเดียวนะอย่าซื้อของเยอะ  ปรากฎว่าหอบหิ้วกันมาเยอะแยะเลย 

เดินทางกลับถึงด่านซ้ายเวลา  23.00 น. การเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีความสุข ทั้งนี้ทางคณะทัวร์ของเราต้องขอขอบพระคุณทางโรงพยาบาลที่ให้โอกาสพวกเราได้ไปเที่ยวในครั้งนี้กษณ์  มาเป็นบุตรบุญธรรมค่ะสมัยยัเย็น

view